ตัวตนจริงของฉวนกุ้ยเฟยในเรื่องหรูอี้

 

กลับมาอีกครั้งกับเรื่องสนมของฮ่องเต้เฉียนหลง เพราะมีหลายคนถามแอดมินว่า แอดมินค่ะ แอดมินพูดเรื่องฮองเฮาฮูลานารา หรือว่า หรูอี้ไปแล้ว พูดเรื่องฮองเฮาฟู่ฉาไปแล้ว แล้วแอดมินเรื่อไหร่จะมาตีแผ่สนมคนอื่นของฮ่องเต้เฉียนหลงละค่ะ เพราะแต่ละคนเนี่ยะ อู้ยยย ในละครเนี่ยะช่างเด็ดดวงที่สุดเลย บางคนช่างดีแสนดี บางคนก็ร้ายสุดฤทธิ์ แล้วในประวัติศาสตร์กับความเป็นจริงเป็นไงบ้างคะ? แอดมิน?  ในประวัติศาสตร์กับความจริงนั้น มันแซ่บ! หรือเปล่า หื้มมมมม! เราก็ต้องมาไขข้อข้องใจกันเป็นแผลๆใช่มั้ย เอามาเลยสนมสองคนที่มีบทบาทในละคร มาพูดกับบ้าง สนมคนแรกคือ ฉวนกุ้ยเฟย แบบในรูป และคนที่สองคือ ยิ่งเฟย ที่มีปากเป็นกรรไกร อยากพูดอะไรก็พูด แต่ว่าพูดแล้วฮ่องเต้เฉียนหลงก็เกรงใจ เพราะว่า she มาจากครอบครัวมองโกลที่มีอำนาจ ดังนั้น เรามาตีแผ่สนมสองคนนี้กันดีกว่า แล้วตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ กับ ตัวละครจริง แตกต่างกันขนาดไหน

   พูดเกี่ยวกับเรื่อง ฉวนกุ้ยเฟย ในละครเรื่อง หรูอี้ จะเห็นว่า ฮ่องเต้เฉียนหลงไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับพระนางเท่าไหร่ เพราะว่า หนึ่ง พระนางไม่ได้มาจากครอบครัวที่สูงศักดิ์ พระนางเป็นชาวฮั่น และมาจากครอบครัวที่ธรรมดา ไม่มีใครรู้ว่า ฉวนกุ้ยเฟย หรือ ฉวนเฟย ถวายตัวกับองค์ชายหงลี่เมื่อไหร่ แต่มีระบุว่า ฉวนเฟยนั้น เป็น เก๋อเก้อ  หรือว่าเป็นพระชายาคนหนึ่งขององค์ชายหงลี่ที่ไม่มียศไม่มีศักดิ์ แต่หลังจากที่องค์ชายหงลี่ขึ้นครองราชย์ ในปี 1738 เป็นฮ่องเต้เฉียนหลง ก็เลื่อนจาก ฉวนเก๋อเก้อ นั่นคือนางสนม อ่ะนะฮ่ะ ขึ้นเป็น ฉวนเฟยทันที ซึ่งคนที่ติดตามวิดีโอของแอดมินก็รู้อยู่แล้วว่า ตำแหน่งเฟย นั้น เป็นตำแหน่งที่รองจากฮองเฮาไม่มาก

ดังนั้นถือเป็นตำแหน่งที่สูงอยู่ ดังนั้นตอนช่วงแรกๆไม่มีระบุว่าความสัมพันธ์ของฉวนเฟยกับองค์ชายหงลี่เป็นยังไง แต่หลังจากที่ฉวนเฟยได้รับการแต่งตั้งหลังจากองค์ชายหงลี่ขึ้นครองราชย์แล้ว ความสัมพันธ์กับดีมาก เพราะอะไรละคะ? เพราะฉวนเฟยตั้งครรภ์อะค่ะ ตั้งครรภ์ออกมา  แล้วลูกชายออกมา ชื่อ หย่งหลง ซึ่งในตอนนนั้นเนี่ย องค์ชายหย่งหลง เป็นองค์ชายองค์ที่สาม และถือว่าเป็นองค์ชายองค์โตที่สุด เพราะว่า องค์ชายองค์แรกที่เกิดจากฮองเฮาฟู่ฉา ได้เสียชีวิตไปแล้ว ดังนั้นในช่วงต้นรัชกาลเนี่ยะ องค์ชายหย่งหลง ถือเป็น องค์ชายองค์โตที่เกิดจากสนมที่มียศสูง คือ เกิดจากสนมที่มีตำแหน่งขั้นเฟย ดังนั้นทั้งฉวนเฟยและองค์ชายหย่งหลง มีความปรารถนาคิดว่า ตัวเองนั้น จะได้เป็นรัชทายาท แต่มันก็น่าเสียดายอย่างหนึ่งว่า เนื่องจาก  ฉวนเฟยมาจากตระกูลชาวฮั่น ดังนั้นโอกาสที่ลูกจะได้ขึ้นครองราชย์ค่อนข้างน้อย

ข้อสอง ก็คือว่า ฮ่องเต้เฉียนหลงไม่ได้โปรดองค์ชายหย่งหลงเลย แต่หลังจากนั้นก็ต่อไปเรื่อยๆเนี่ยะ ความสัมพันธ์ของฉวนเฟยกับฮ่องเต้เฉียนหลงก็ยังมีความสัมพันธ์กัดีอยู่ หลังจากนั้น ภายในปี 1745 ฉวนเฟยก็ได้รับการเลื่อนยศเป็น ฉวนกุ้ยเฟย ซึ่งถือว่าตอนนั้นมีความสำคัญค่อนข้างสูง เพราะว่า ฉวนกุ้ยเฟย มียศที่สูง และ เกากุ้ยเฟย กุ้ยเฟย ก่อนหน้านั้นได้เสียชีวิตลงแล้ว ดังนั้นฉวนเฟย หรือ ฉวนกุ้ยเฟยเนี่ยะ ถือว่ามีอำนาจลำดับต้นๆในพระราชวังหลังกันเลยทีเดียว แล้วเท่านั้นยังไม่พอ ฉวนกุ้ยเฟย ยังได้ตั้งครรภ์องค์ชายคนที่สอง คือ หย่งหลิง ด้วย ดังนั้น ตอนนี้ฉวนกุ้ยเฟย มีลูกชายถึงสองคนด้วยกัน หลังจากนั้นไม่นาน ฮองเฮาฟู่ฉา ได้เสียชีวิตลง มันก็เลยเกิดในละครเนี่ยะ เราจะเห็นว่ามีการแก่งแย่งตำแหน่งฮองเฮากันเกิดขึ้น ระหว่างหรูอี้ กับ ฉวนกุ้ยเฟย มาสู้กัน แต่ในประวัติศาสตร์ไม่มีการแก่งแย่งอะไรเลย ไม่มีการระบุไว้ ดังนั้นผู้พูดจึงคิดว่าเป็นสิ่งที่ละครเขาสร้างขึ้นมาเพื่อความสนุก แต่ว่ามีจุดหนึ่งที่เหมือนในประวัติศาสตร์ ก็เพราะว่า ในขณะที่ทุกคนเขาไว้ทุกข์ให้ฮองเฮาที่เสียชีวิตไป แต่องค์ชายหย่งหลงไม่ได้เสียใจเลยที่แม่หลักในกฎหมายได้เสียชีวิตไป ดังนั้นฮ่องเต้เฉียนหลงโกรธมากที่องค์ชายคนโตไม่รู้จักเคารพแม่ตามกฏหมาย ดังนั้นฮ่องเต้เฉียนหลงจึงประกาศต่อหน้าธารกำนัล ว่า องค์ชายหย่งหลงไม่มีความกตัญญู ไม่มีความภักดี จึงไม่มีสิทธิ์สืบราชสมบัติอีกต่อไป ซึ่งตอนนั้นการประกาศครั้งนี้ เป็นการประกาศฟ้าผ่ามาก เพราะตอนนั้นองค์ชายหย่งหลง เป็นองค์ชายองค์โ และมีอายุมากที่สุด ดังนั้นหลายต่อหลายคนถือว่าเป็นตัวเกร็งที่จะขึ้นตำแหน่งสูง แต่พอพระเจ้าเฉียนหลงประกาศมาอย่างนี้ ก็เหมือนกับ Talk of the town ขึ้นมาทันที และไม่ได้ทำร้ายแค่องค์ชายหย่งหลงอย่างเดียว มันทำร้ายไปถึง ฉวนกุ้ยเฟยด้วยเพราะในฝ่ายในก็ซุบซิบนินทากันใหญ่เลยว่า ดู๊ดูสิ ขนาดฮองเฮาฟู่ฉาตายไปไม่กี่ปีเนี่ยะ องค์ชายหย่งหลงก็สิ้นยศสิ้นวาสนาแล้ว แล้วฉวนกุ้ยเฟยจะมีความสำคัญอะไรอีก  ฉวนกุ้ยเฟยก็เก็บคววามเสียใจไว้ในใจ และมาเพิ่มความเสียใจอีกยกหนึ่งค่ะ

 อ้าว! ทำไมหรอ? เกิดอะไรขึ้นกับฉวนกุ้ยเฟยหรอ

เพราะว่าฮ่องเต้เฉียนหลงเค้ามีพี่น้องก็เยอะอยู่พอสมควรใช่มั้ยฮ่ะ ก็มี พี่ขององค์ชายเฉียนหลงเนี่ย คือ หยุนสี เรียกว่ามียศเป็นลุงก็แล้วกัน เพราะว่าเป็นพี่ของฮ่องเต้เฉียนหลง ซึ่งองค์ชายหยุนสีเนี่ยะ น่าเสียดายตรงที่ว่ามีลูกชายถึงสองคน แต่ลูกชายทั้งสองคนก็เสียชีวิตไปตั้งแต่ยังเยาว์วัยนัก แล้วก่อนที่ลูกชายจะตายเนี่ยะก็ไม่มีใครทิ้งทยาทไว้อีก ดังนั้นองค์ชายหยุนสีก็ไม่มีใครสืบเชื้อสายของตัวเอง พระเจ้าเฉียนหลงเห็นว่า พี่ชายตัวเองไม่มีผู้สืบตระกูล ก็เลยคิดว่า เอ่ะ? จะเอาองค์ชายคนไหนยกขึ้นเป็นลูกบุญธรรม ก็เห็นว่า องค์ชายของฉวนกุ้ยเฟยเหมาะสม คือ องค์ชาย หยุ่นหลิง เลยยกองค์ชายหยุ่นหลิง ให้กับ ลุงหยุนสีไป  เท่ากับตอนนี้ฉวนกุ้ยเฟย เสียลูกชายคนเล็กไป เพราะต้องไปเป็นลูกบุญธรรมคนอื่น ลูกชายคนโตก็ไม่มีสิทธิ์ขึ้นครองราชย์ ก็เสียอกเสียใจตรอมใจอยู่กินแต่ในวัง มันก็ไม่จบอีก ในขณะที่องค์ชายหย่งหลงแต่งงานแล้วก็มีทายาทคนแรก ทายาทคนแรกก็มาเสียชีวิตอีกเมื่ออายุไม่ถึงสองเดือน ซึ่งการเสียชีวิตครั้งนี้ของลูกชายทำมห้องค์ชายหย่งหลงเสียใจมาก รวมไปถึงฉวนกุ้ยเฟยก็เสียใจมากที่เสียหลานชายคนโตไป การกระทำทั้งสองอย่างนี้ ทำให้ฉวนกุ้ยเฟย และฐานะในฝ่ายในถือว่าย่ำแย่มากเลย และหลังจากนั้นไม่นาน ฉวนกุ้ยเฟยก็เป็นผู้ป่วยติดเตียงไปไหนไม่ได้ ซึ่งในขณะที่เกิดเรื่องเหล่านี้ฮ่องเต้เฉียนหลงก็ไม่ได้สนใจ ฉวนกุ้ยเฟย แลย จนมารู้ว่าฉวนกุ้ยเฟยใกล้ตายก็เริ่มสนใจ เริ่มมาหาฉวนกุ้ยเฟย และสถาปนาฉวนกุ้ยเฟยแก้เคล็ดว่า ถ้าเกิดสถาปนาฉวนกุ้ยเฟยคงจะหายป่วย จึงสถาปนาเป็น ฉวนหัวกุ้ยเฟย แต่หลังจากสถาปนาแล้ว ฉวนกุ้ยเฟยก็ได้ตายไป ไม่ได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ก็ได้สูญเสียชีวิตไปเลย นี่แหละ คือจุดจบของฉวนกุ้ยเฟย