สนมกงเฟย สนมชอกช้ำระกำทรวงในราชวงศ์หมิง
เรามาต่อกันตอนที่ 2 โศกนาฏกรรมของเหล่าสนม ในราชวงศ์จีน ตอนนี้เราจะพูดถึงสนมกงเฟย ในราชวงศ์หมิง ซึ่งเป็นสนมของฮ่องเต้ว่านลี่ ฮ่องเต้ว่านลี่คนนี้ถือว่าเป็นฮ่องเต้ที่ครองราชย์มามากกว่า 30ปี ถือว่าเป็นฮ่องเต้ที่ครองราชย์มาได้อย่างยาวนานสูงสุด กว่าฮ่องเต้ทุกคนในราชวงศ์หมิงเลยล่ะ อ่ะแล้วสนมกงเฟยเป็นโศกนาฏกรรมิย่างไรล่ะค่ะ ก่อนที่เราจะมาพูดถึงเรื่องโศกนาฏกรรม หรือ เรื่องร้ายๆที่เกิดกับสนมกงเฟยเนี่ยะ เรามาดูกันก่อนว่าสนมกงเฟย มีกำเนิดเกิดการเป็นเช่นไร
สนมกงเฟยนั้นจริงๆเป็นเพียงแค่ไพร่คนหนึ่ง แล้วพ่อแม่ก็ส่งมาเป็นนางกำนัล จับผลัดจับผลูได้มาทำงานที่ตำหนักของไทเฮาหลี่ฮ่องเต้ว่านลี่นั่นเอง ตอนทำงานไทเฮาหลี่ก็โปรดปราน
ไทเฮาเลยให้ทำงานอย่างใกล้ชิด สนมกงเฟยก็ทำงานอย่างเรียบร้อย ไม่มีผิดพลาด ซึ่งชื่อเดิมของสนมกงเฟยตอนนั้น ก็คือ นางกำนัลหว่าน นางกำนัลหว่านก็คอยดูแลรับใช้ไทเฮาเป็นอย่างดี เติมข้าว เติมน้ำ คอยเป็นเพื่อนไทเฮา และวันหนึ่งฮ่องเต้ว่านลี่ก็มาเยี่ยมสมเด็จแม่ ก็ดั๊นไปเกิดอาการต้องใจกับนางกำนัลคนนี้ เห็นว่ารูปร่างอรชร อ่อนน้อมถ่อมตน ฮ่องเต้ก็เลยแอบไปจิ้มก้องกันอย่างลับๆหนึ่งที ซึ่งการมีอะไรกับนางกำนัลที่เป็นไพร่มาก่อนเนี่ยะ ถือว่าเป็นอะไรที่น่าอาย ฮ่องเต้ก็ไม่อยากจะเล่าให้ใครฟัง ดังนั้นพอจิ้มหนึ่งครั้งแล้วก็ทิ้งไปเลย ไม่มาดูดำดูดีอะไรกับนางกำนัลหว่าน เลย นางกำนัลหว่านก็ไม่รู้จะทำยังไงเพราะว่า ถ้าเกิดจะไปแหกปากแหกคอบอกคนอื่นว่า นี่ๆฉันเป็นเมียฮ่องเต้ต้องแต่งตั้งฉันน่ะ พูดไปใครจะเชื่อ เพราะว่าตัวเองก็ไม่มีขุนนางคอยสนับสนุน ไทเฮาก็ไม่ได้รับรู้ และตัวเองกำพืดก็เป็นแค่ไพร่คนหนึ่ง แล้วใครในวังล่ะที่จะสนับสนุนพระนาง นางกำนัลหว่านก็ต้องเก็บความโศกเศร้าเสียใจไว้กับตัวเอง และก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อไป และฮ่องเต้จะมาจิ้มอีกครั้งหรือป่าวก็ไม่รู้ แต่ว่าในความโชคร้ายนั้นก็ยังมีความโชคดีอยู่ เพราะแค่ตกเบ็ดหนึ่งครั้งเนี่ย นางกำนัลก็ท้องเลยคร้า ตอนแรก นางก็ยังเป็นสาวรุ่นวัยดรุณ she ก็จะไปรู้ได้ไงว่า อาการท้องเนี่ยะ มันเป็นยังไง ? แต่ว่าท้องเนี่ยะ ไม่มีอาการแพ้ใช่มั้ยคะ ? แต่ว่าท้องเนี่ยก็มีอาการใหญ่ขึ้น ๆๆ มันใหญ่ขึ้นจนไทเฮาสังเกตเลยถามว่า เฮ้ย! ช่วงนี้อ้วนหรอ ทำไมท้องมันถึงได้บวมๆๆๆขึ้น นางกำนัลหว่านก็ตอบว่า ไทเฮาเพค่ะ ดิฉันไม่ได้อ้วนขึ้นหรอกคะ ดิฉันกินก็กินเท่าเดิม แต่ว่าไม่รู้ทำไม ทำอะไร ท้องถึงได้บวมขึ้นๆ ไทเฮาก็ เอ่ะ ! นี่มันไม่ใช่โลกท้องมารนี่หว่า ท้องมันถึงได้บวมขึ้น สั่งหมอหลวงมาตรวจค่ะ ตรวจไปตรวจมาก็โป๊ะเช่ะ เลยว่า นางกำนัลหว่านเนี่ย ท้องก็ต้องเกิดเรื่องใหญ่สิค่ะ อ้าว ! อยู่ดีๆนางกำนัลที่เป็นสาวบริสุทธิ์ท้องขึ้นมาได้ยังไง เธออธิบายฉันมาเดี๋ยวนี้ นางกำนัล ! เฮ้อ ! กระดาษหรือจะไปห่อไฟก็คงห่อไม่ได้นางกำนัลก็เลย คายไพ่ใบสุดท้าย ตองเก้ามาเลยค่ะ
จริงๆแล้วเมื่อสามเดือนก่อน หม่อมฉันไปเก็บของในตำหนักเพค่ะ แต่ว่าฮ่องเต้ก็บังเอิญผลักประตูเข้ามาแล้ว ไม่พูดพร่ำทำเพลง ชำเรากระหม่อมฉันเลยเพค่ะ ไทเฮาก็ไม่ได้โกรธมาก เพราะว่าการที่ฮ่องเต้จะถูกตานางกำนัลคนไหน และก็ไปมีสัมพันธ์สวาทด้วย ไม่ใช่สิ่งที่แย่อะไรขนาดนั้น ไทเฮาเลยเรียกฮ่องเต้มาพบส่วนตัวเลย ระหว่างที่ฮ่องเต้มา ฮ่องเต้ก็ยังไม่รู้ชะตากรรมนะค่ะว่าไทเฮาจับได้แล้ว ไทเฮาก็บอกว่า แม่มีเรื่องที่จะพูดกับเจ้าสองต่อสองให้คนอื่นออกไปก่อนได้มั้ย ฮ่องเต้ก็บอกว่าได้ครับสมเด็จแม่ ก็เลยสั่งให้คนที่ติตามมาทั้งหมดอกไปทั้งหมด ไทเฮาก็เลยจับเข่าคุยกับฮ่องเต้ว่า ฮ่องเต้แม่มีเรื่องอยากจะพูดกับเจ้าเรื่องหนึ่ง แม่ได้ไปดูบันทึกการกรณียกิจของเจ้าจากขันทีคนสนิทของเจ้าแล้ว แล้วเมื่อสามเดือนที่แล้วเจ้าได้เข้าไปในห้องๆหนึ่งแล้วก็ไปมีสัมพันธ์สวาท กับนางกำนัลของแม่ ไม่ทราบว่าเรื่องนี้เจ้าทำจริงหรือไม่ ? ฮ่องเต้ก็อึ้งค่ะว่าสมเด็จจับได้แล้วว่าไปได้กับนางกำนัล แล้วนางกำนัลคนนี้ก็มีพื้นเพต่ำต้อย เป็นเพียงแค่นางไพร่ แต่ว่าจะปฏิเสธก็ไม่ได้เนอะ เพราะว่าในบันทึกก็มีกำหนดไว้แล้วว่า เราไปจิ้มก้องกับนางกำนัลคนนั้นจริง ก็บอกว่า ใช่สมเด็จแม่ข้าพเจ้าได้ทำเรื่องนั้นจริง อ่ะ ! ฮ่องเต้ในเมื่อฮ่องเต้ได้ทำเรื่องเช่นนั้นจริง แล้วตอนนี้นางกำนัลคนนั้นท้องได้สองเดือนแล้ว ฮ่องเต้จะจัดการเช่นไร ? ฮ่องเต้เลยตอบไปว่าในเมื่อสมเด็จแม่ยอมรับนางกำนัลคนนี้ และนางกำนัลคนนี้ก็เป็นคนโปรด หม่อมฉันก็จะอวยยศนางเลื่อนจากนางกำนัลเป็นนางสนมขั้น เฟย และก็เปลี่ยนชื่อจากนางกำนัลหว่าน เป็น กง ซึ่งมีความหมายที่ดี ต่อไปให้เรียกว่า กงเฟย ไทเฮาได้ยินอย่างนั้นก็เบาใจ ก็เลยบอกว่า ฮ่องเต้เจ้าจงไปประกาศพระบรมราชโองการนี้เถิด ฮ่องเต้ก็ไปประกาศ แต่ว่าหลังจากที่ประกาศแล้ว นางสนมหว่านขึ้นเป็นกงเฟยและก็มีตำหนักอยู่ แต่ฮ่องเต้ก็ไม่เคยโปรดปรานนางเลย เพราะอะไร ? เพราะว่าตอนนั้นฮ่องเต้โปรดปรานนางสนมจางมาก ชื่อว่า จางกุ้ยเฟย จางกุ้ยเฟยมีหน้าที่ที่จะดูแลคนในวัง และก็มีอำนาจมาก ตอนนั้นจางกุ้ยเฟยก็ไม่มีลูกชายซะด้วยสิ จะทำยังไงดีล่ะ ตายล่ะ ในเมื่อมีสนมเป็นไพร่คนหนึ่ง และก็ตั้งท้อง แล้วเราจะต้องทำยังไงล่ะ ? เราจะต้องทำขัดขวางเขาก่อน ต้องแบบ Block ซีน ใช่มั้ย ? จางกุ้ยเฟยก็เลยให้สนมกงเฟยไปอยู่ตำหนัก แต่เป็นตำหนักที่อยู่ไกลๆฮ่องเต้ ไม่ให้ฮ่องเต้เห็นว่านางนี่ยังมีชีวิตอยู่ ให้ไม่เห็นเดือน ไม่เห็นตะวันกันเชียวละค่ะ
กงเฟยถึงแม้จะมีตำแหน่งเป็นพระสนม
แต่ว่าไม่มีใคร support ในวัง พื้นเพก็แย่ก็ต้องทนไปอยู่ในตำหนักเล็กๆ
ไกลหูไกลตา ประมาณว่าร้างคนว่าอย่างนั้นเถอะ แต่ว่าหลังจาก ผ่านไปเจ็ดเดือน
สนมกงเฟยก็คลอดออกมา และก็เป็นองค์ชายด้วย และก็ถือว่าเป็นองค์ชายองค์แรก
องค์โของจักรพรรดิว่านลี่ทีเดียวเชียวล่ะ แล้วการเป็นองค์ชายคนโตเนี่ยะ
มันมีสิทธิ์มีเสียงดียังไ ปรากฏว่า ไม่มีอะไรดีเลย เพราะว่าหนึ่งเนี่ย
ฮ่องเต้ไม่สนใจแม่แล้ว ก็เลยพาลไปไม่สนใจลูก สองแล้วสนมจางกุ้ยเฟย
ซึ่งเป็นสนมคนโปรดก็มาตั้งท้อง ตั้งท้องอย่างเดียวยังไม่พอ ยังมีลูกชายออกมาอีกสามคน
OH! MY GODNESS ! จางกุ้ยเฟยก็ท้องออกมา อ้าว ! แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ เพราะเรามีลูกกับสนมคนโปรด
แต่ว่าสนมโปรดไม่ได้มีลูกชายคนโต แล้วการแต่งตั้งรัชทายาทจะทำยังไง
พวกขุนนางต่างๆและไทเฮาต่างก็เรียกร้องให้ฮ่องเต้ แต่งตั้งองค์รัชทายาทได้แล้ว
เพราะตอนนี้มีลูกชายก็ต้องหลายคน
พวกไทเฮาและก็ขุนนางเสนอให้ฮ่องเต้แต่งตั้งลูกชายคนโต เพราะถือว่า ตามหลักแล้ว
ลูกชายคนโตก็ต้องสืบราชสมบัติ แต่ว่าเนื่องจาก ฮ่องเต้ไม่โปรดสนมกงเฟย
มาตั้งแต่แรก โปรดสนมจางกุ้ยเฟยมาโดยตลอด ก็อยากจะให้ลูกสนมจางกุ้ยเฟย
ขึ้นมาเป็นรัชทายาท ก็สู้กับไทเฮา ดึงดันกับขุนนาง
ล่อกันไปเป็นเดือนๆก็ยังไม่มีบทสรุป
จนวันหนึ่ง
ไทเฮาก็เลยไปพบฮ่องเต้เลย ฮ่องเต้ทำไมเรื่องแต่งตั้งรัชทายาทเนี่ยะ
ยังแต่งตั้งไม่เสร็จสักที ถ่วงเวลาก็ตั้งนานแล้ว และแม่เล็งเห็นว่
ควรจะแต่งโอรสองค์โตของสนมกงเฟยขึ้นมาเป็นรัชทายาท เพราะตามหลักแล้ว
โอรสองค์แรกก็ต้องสืบราชสมบัติตามประเพณี ฮ่องเต้ก็เลยบอกว่า แต่สมเด็จแม่
กงเฟยนั้นเป็นเพียงแค่ไพร่คนหนึ่ง กำพืดแย่ ถ้าแต่งตั้งไปใครจะเคารพ ไทเฮาได้ยินโกรธมาก
เอามือตบเข่าฉาดเลย แล้วพูดว่า ทำไมลูกไพร่จะขึ้นเป็นรัชทายาทไม่ได้ ?
ท่านผู้ฟังก็อาจจะสงสัยว่า ทำไมไทเฮาถึงได้ต้องโกรธมากขนาดนั้น ถึงขั้นตบเข่าฉาด
กับการที่ฮ่องเต้นั้นพูดว่าลูกไพร่ไม่สมควรจะขึ้นมาเป็นรัชทายาท
ก็เพราะว่าพื้นเพของไทเฮา ก็เป็นเพียงไพร่เหมือนกันค่ะ
พื้นเพของไทเฮาเป็นเพียงนางกำนัลต่ำต้อยคนหนึ่ง แล้วก็ได้กับอดีตฮ่องเต้ ดังนั้น
ลูกออกมาจึงเป็นฮ่องเต้คนปัจจุบัน ดังนั้น ไทเฮาถึงได้โกรธมาก
ที่ว่าลูกไพร่ทำไมถึงไม่มีสิทธิ์ที่จะครองราชย์ ใช่มั้ย ? ไทเฮาก็เลยพูดว่า
ฮ่องเต้ เธออย่าลืมน่ะว่าตัวเองก็เป็นลูกของไพร่เหมือนกัน
เพราะฉันเองเคยเป็นไพร่มาก่อน ฮ่องเต้ได้ฟังถึงกับสะอึก ว่า เออ ! จริงว่ะ เรามันก็เป็นเจ้าครึ่งไพร่เหมือนกันนี่หว่า
เพราะแม่เราก็ไม่ได้เป็นเจ้ามาจากที่ไหน พระองค์ก็เลยอกพระบรมราชโองการว่า
สนมกงเฟยมีลูกชายให้คนแรก ลูกชายสามารถที่จะสืบครองราชสมบัติได้
จึงตั้งเป็นรัชทายาท แต่ว่าหลังจากตั้งแล้ว ห้ามให้สนมกงเฟย
เจอกับรัชทายาทตลอดชีวิต
พอประกาศออกไปกงเฟย
แทนที่จะได้ดีใจกับลูกก็โดนขันทีและนางกำนัลจับแยกไปอยู่อีกตำหนักแล้วก็เป็นการที่เขาเรียกว่า
under house arrest ก็เหมือนกับง่ายๆถูกจองจำไม่ให้ออกมาจากตำหนักเลย
แล้วจองจำนานแค่ไหนล่ะ ? จองจำขังลืมเป็นเวลามากกว่าสามสิบปี
ที่แม่กับลูกไม่ได้เจอกัน จนรัชทายาทแต่งงานและก็มีลูกแล้ว
สนมกงเฟยก็ไม่ได้เห็นหน้าหลานและ ลูกตัวเองนานนับสามสิบปี ระหว่างสามสิบปีนี้
สนมกงเฟยนี้โศกเศร้าเสียใจ โทษว่าตัวเองทำอะไรผิด
ฮ่องเต้ถึงไม่อนุญาตให้เจอลูกเสียที ต่อให้จะเป็นงานฉลองยังไง งานวันเกิดสนมกงเฟย
ลูกก็ไม่อนุญาตให้มาเจอ เนื่องจากว่าสนมกงเฟย
โศกเศร้าเสียใจเอาแต่เก็บตัวอยู่ในตำหนัก ไม่ได้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวัน
ตาที่พร่าอยู่แล้ว ก็กลายจากตาพร่า เป็นตาบอด แล้วพอตาบอดมองอะไรไม่เห็น
ตัวเองก็ยิ่งโศกเศร้าเสียใจ จนตัวเองใกล้จะหมดอายุขัย
แล้วก็จะตายอยู่แล้วภายในคืนนั้น ก่อนที่จะตายเนี่ยะก็ได้บอกนางกำนัลว่า
นางกำนัลก่อนที่ฉันจะตายเนี่ย ฉันขอพบหน้าลูกฉันสักครั้งหนึ่งได้หรือไม่ ?
แม่ที่ไม่เคยพบหน้ารัชทายาทเป็นเวลาสามสิบปี หน้าตารัชทายาทเป็นอย่างไร
แม่ก็ไม่เคยเห็น ขอพบหน่อยเถอะ
นางกำนัลและขันทีที่เคยรับใช้ก็ได้แต่อึกอักๆไม่กล้าพูด
เพราะว่าจักรพรรดิว่านลี่ได้เคยออกพระบรมราชโองการมาตั้งแต่สามสิบปี่แล้ว
ว่าห้ามสนมกงเฟยมาพบหน้ากับรัชทายาทอีก ดังนั้นถ้าเกิดจะไปขอให้ยกเลิกคำสั่งก็คงจะเป็นไปไม่ได้
แต่ก็มีนางกำนัลใจเด็ดคนหนึ่ง รีบวิ่งไปยังตำหนักรัชทายาท บอกว่า
รัชทายาทสมเด็จแม่ของพระองค์เนี่ยะ กำลังจะสวรรคตแล้วน่ะ
ถ้าไม่มาดูใจตอนนี้ก็จะไม่ได้พบหน้าแม่อีกตลอดชีวิต รัชทายาทได้ยินก็ถือว่า คือ
ถือว่าตัวเองอกตัญญู คือต่อให้อยู่วังเดียวกัน แค่มีกำแพงกั้นกลาง
แต่ก็ไม่เคยได้เห็นหน้าแม่ด้วยซ้ำ ว่าแม่ผู้ให้กำเนิดหน้าตาเป็นอย่างไร ?
และที่สำคัญรัชทายาทก็มีลูกแล้ว หลานก็ไม่เคยได้เห็นหน้าย่า
ก็ถือว่าเป็นเรื่องเศร้า รัชทายาทก็รีบวิ่งตรงไปที่ตำหนัก ของสมเด็จพ่อเลย
ไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ว่านลี่ เพื่อขอพระบรมราชานุญาต แต่ว่าตอนที่ไปเข้าเฝ้านั้น
รัชทายาทก็ตุ้มๆต่อมๆ เพราะเรื่องพระราชมารดาของตัวเอง ถือว่าเป็น topic ต้องห้ามในราชวัง ห้ามพูดเด็ดขาด แต่ว่าจะทำอย่างไรล่ะ ? ก็ต้องกัดฟัน
ก็ต้องรีบเข้าไปหาสมเด็จพ่อ ไปเข้าเฝ้า โชคดีที่ฮ่องเต้ว่านลี่ทรงเห็นใจก็เลยให้รัชทายาทเข้าไปเฝ้าพระมารดาเป็นครั้งสุดท้าย
พอได้รับอนุญาตปึ๊บ โอ้โห ! รัชทายาทนี่ก็วิ่งยังกับติดม้าเร็วเลยค่ะ
ติดเทอร์โบ Benz s500 วิ่งตรงไปตำหนักสมเด็จแม่เพื่อไปเข้าเฝ้า
แต่ว่าน่าเสียดาย ต่อให้ได้เจอกันก็จริง แต่ว่าดวงตาของสนมกงเฟย
ก็ได้บอดสนิททั้งสองข้างแล้ว สิ่งที่นางสามารถที่จะสัมผัสได้ก็เป็นเพียงเสื้อผ้าและก็ใบหน้าของลูกและใบหน้าของหลานเท่านั้นเอง
พระนางยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฮ่องเต้หน้าตาเป็นอย่างไร แล้วก็รัชทายาท
ลูกของตัวเองหน้าตาเป็นอย่างไร ก็ต้องเสียชีวิตไปในวัย 46 ปี
ตายไปอย่างโศกเศร้า อย่างเดียวดาย
เป็ยังไงล่ะ ?
เรื่องนี้ฟังแล้วเศร้ากันมั้ย ? ตัวเองเป็นถึงสนม เลื่อนจากนางกำนัล
ลูกก็แต่งตั้งเป็นรัชทายาท แต่ก็ไม่มีสิทธิ์เจอรัชทายาท แล้วก็ตายในตำหนักอย่างท้อแท้เสียใจ
มีอะไรก็comment กันที่ข้างล่างไว้ได้นะจ๊ะ
เรื่องนี้อาจจะส่งเสียงอะไรไม่ได้มาก เพราะมันเศร้าก็เลย soft ขึ้นมานิดนึง ไปแล้วน่ะทุกคน รักน่ะ จุ๊บๆ
Comments
Post a Comment