เขตพระราชฐานชั้นในวังต้องห้าม ตีแผ่ตำหนักคุณแม่หรูอี้และฮองเฮาฟูฉา ตอนจบ

 

ต่อไปเราจะลัดไปที่ตำหนักเบอร์สาม คือ จิ่งหยางกง AKA พระตำหนักเย็น ตำหนักจิ่งหยางกงมีพระสนมคนหนึ่งมีชีวิตรันทดมาก ในสมัยราชวงศ์หมิงเคยประทับอยู่ คือ กงเฟย พื้นเพเป็นนางกำนัลในตำหนักไทเฮา. แต่ว่าบังเอิญไปต้องตาต้องใจจักรพรรดิว่านหลี่ เลยจิ้มก้องไปครั้งหนึ่ง พระนางเกิดท้อง แล้วตอนแรกจักรพรรดิว่านหลี่ท้องก็ไม่รับ ไม่รู้ไปฟังเพลงดัง พันกร มาหรือเปล่า แต่บังเอิญไทเฮากดดันอย่างหนัก จักรพรรดิว่านหลี่เลยต้องรับมาเป็นพระสนม ตำแหน่งแรกตั้งเป็น เฟย ซึ่งถือเป็นสนมขั้นสูง เลยเรียกว่า กงเฟย และเนื่องจากกงเฟยไม่เป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิว่านหลี่ พระนางจึงอยู่อย่างโดดดี่ยวเดียวดาย ลูกที่เกิดจากพระนางแม้ว่าเป็นพระโอรสองค์โต และในภายหลังได้แต่งตั้งเป็นรัชทายาทพระนางก็ยังอยู่อย่างโดเดี่ยวเดียวดาย พระโอรสก็โดนจับแยกออกไป พระเนตรของพระนางทั้งสองข้างบอดสนิท จนพระนางจะสิ้นพระชนม์ เลยต้องขอต่อจักรพรรดิว่านลี่ให้พบลูกชายของตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย ตอนที่องค์รัชทายาทมาเจอพระสนม พระสนมทำได้เพียงใช้พระหัตถ์ลูกพระพักตร์ของรัชทายาท และก็ทรงกันแสงเท่านั้นอง ใครอยากจะฟังเรื่องสนมกงเฟยเต็มๆแอดมินได้เคยพูดเมื่อ 5-6 เดือนที่แล้วแอดตามลิ้งค์ด้านล่างได้เลย

 สมัยราชวงศ์ชิง จิ่งหยางกงใช้เป็นที่เก็บหนังสือและเป็นที่ประทับของสนมที่ต่ำศักดิ์ เช่น ต๊ะอิง ซึ่งสนมเหล่านี้อาจจะเป็นสนมต๊ะอิงที่ไม่เคยเข้าเฝ้าฮ่องเต้และโดนให้มาเฝ้าหนังสือไปโดยปริยาย สถานที่โดดเดี่ยวอ้างว้างแบบนี้ เป็นใครก็ไม่อยากอยู่เลยมีชื่อว่า AKA พระตำหนักเย็น และเราก็เดินลัดเลาะไปที่พระตำหนักเบอร์ห้า เรียกว่า ฉางเฉียนกง 

พระตำหนักนี้ถือว่าป๊อปมาก เพราะพระตำหนักนี้สนมต่งเอ้อเฟย ของพระเจ้าซุ่นจื้อเคยอยู่ที่นี่ ต่งเอ้อเฟยเป็นสนมที่พะเจ้าซุ่นจื้อรักมากที่สุด เพราะว่าพระองค์คิดจะปลดฮองเฮาและตั้งต่งเอ้อขึ้นเป็นฮองเฮาแทน แต่ว่าโดนคัดค้านจากไทเฮาเสี้ยวจุง อย่างหนัก ระองค์ก็เลยไม่กล้า แต่พระองค์ก็รักพระสนมต่งเอ้ออย่างมาก ตอนที่พระสนมต่งเอ้อสิ้นพระชนม์ไป ฮ่องเต้ซุ่นจื้อแทบจะตายตาม และพระสนมอีกคน คือ หรูอี้ ของเรานั่นเอง คุณแม่หรูอี้ เคยพำนักที่เฉินเฉียนกง พระนางอูลานาราสมัยที่เป็นเสอฟู่จิ้น แล้วหลังจากที่ฮ่องเต้เฉียนหลงขึ้นครองราชย์ พระนางก็ได้เป็นฮองเฮาหลังจากที่ฮองเฮาฟู่ฉา สิ้นพระชนม์ไป พระนางโดนส่งกลับขณะประทับแถบเจียงหนาน และโดนยึดตราประจำตำแหน่ง โดนลดเครื่องยศและจำนวนคนใช้เหลือสองคน เทียบเท่าฉางจ้าย พระนางสิ้นพระชนม์ในวัย 49 ปี ใครอยากจะรู้จักประวัติของพระนางอูลานารา หงส์ปีกหักของเราก็คลิ๊กลิ้งค์ด้านล่างได้เลย

หลังจากเรารู้จักหมู่หกพระตำหนักฝั่งตะวันออกแล้ว เราก็มารู้จัก หมู่หกพระตำหนักฝั่งตะวันตกกันบ้าง 

อันดับแรก คือ หมายเลขหนึ่ง หย่งโซ๋กง ภาษากฤษ เรียกว่า the palace of eternal longevity 

หมายเลขสองคือตำหนักอี้คุนกง the palace of assisting the earth 

ลำดับที่สาม ฉู่ซิ่วกง the palace of concentrated beautys 

ลำดับที่สี่เสียนฝู่กง หรือ the palace of universal happiness 

ตำแหน่งที่ห้า ฉางชุนกง the palace of everlasting spring 

อันดับที่หก ไท่จี๋เตี้ยน หรือ the hall of Ulitmate Supremacy

เรามาดูตำแหน่งที่หนึ่งเลย หย่งโซ่กง พระสนมที่เคยประทับถือว่าลืมไม่ได้เลย คือ จิ้งเฟย ในสมัยฮ่องเต้ซุ่นจื้อ ตอนแรกจิ้งเฟยแต่งมาเป็นฮองเฮา แต่เนื่องจากฮ่องเต้ซุ่นจื้อไม่ชอบพระนาง หาว่าพระนางหึงงหวงบ้าง ใช้แต่ของฟุ่มเฟือย Extravaganza บ้าง ฮ่องเต้ซุ่นจื้อเลยหาทางปลดพระนางให้เป็นตำแหน่งจิ้งเฟย ซึ่งจิ้งเฟยอยู่ในตำหนักนี้อย่างเงียบเหงาเฉาโดดเดี่ยวเดียวดายจนสิ้นพระชนม์ไป ใครอยากรู้เรื่องของจิ้งเฟยให้มากขึ้นคลิ๊กที่ลิ้งค์ด้านล่างได้เลย และพระสนมอีกคนหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ เจินหวนของเราไงค่ะ 

พระนางเจินหวนประทับอยู่ที่หย่งโซ่กง ตั้งแต่จักพรรดิหย่งเจิ้นครองราชย์จนพระองค์สวรรคต และพอฮ่องเต้เฉียนหลงครองราชย์ พระนางย้ายไปอยู่จิ่งเหลิงกง แต่ถ้าเกิดว่าใครได้ดูเรื่องหรูอี้ประมาณตอนที่สี่หรือตอนที่ห้าจะเห็นว่าพระนางออกจากหย่งโซ่กงมาแล้ว และต้องการไปประทับที่พระตำหนักคุนหมิง แต่ตอนนั้นฮ่องเต้เฉียนหลงเล่นแง่ เพราะอยากจะให้พระนางอนุญาตให้หรูอี้ออกจาการไว้ทุกข์เร็วๆ ก็เลยส่งพระนางไปตำหนักที่ช่อคังกุง แต่จริงๆแล้วในสมัยราชวงศ์ชิงตำหนักคุนหมิงกงเราไม่ใช้เป็นที่พำนักของฮองเฮาหรือไทเฮาเราใช้เป็นที่ประกอบพิธีมากกว่า อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ดังนั้นในซีรี่ย์ของหรูอี้ เขาคงเพียงแค่อยากจะแสดงว่า ไทเฮาอยากจะไปพักตำหนักที่ใหญ่โตหรูหราextravaganza แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย เจินหวนของเราตอนที่เป็นไทเฮาประทับอยู่ช่อคังกุงตลอดเวลา 

ตำหนักต่อไปที่สำคัญ คือ ตำหนักหมายเลขสอง หรือ อี้คุนกง ตำหนักนี้เป็นตำหนักที่หรูอี้ประทับในละคร จำได้มั้ยเอ่ย แล้วมีฉากหนึ่งที่จางกุ้ยเฟยกัดหรูอี้ว่าเป็นถึงฮองเฮาแล้ว ทำไมยังอยู่ในตำหนักอี้คุนกง เพราะ ตำหนักอีคุนกงภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร ? เขาพูดว่า the palace of assisting the earthหรือแปลเป็นไทยว่า ตำหนักที่เป็นผู้ช่วย ดังนั้น หรูอี้เป็นถึงฮองเฮาแล้วทำไมถึงอยู่ตำหนักอี้คุนกง ตามประวัติศาสตร์แล้วหรูอี้ของเราไม่เคยอยู่อี้คุนกง แต่อยู่เฉินเฉียงกง  และพระสนมอีกคนที่ถือว่า เฟี้ยชมากเลย ที่เคยประทับอยู่ที่นี่ คือ หัวเฟย ของเรานั่นเอง

หัวเฟย เป็นน้องสาวของเหนียนเกิงเหยา ได้เลื่อนยศสูงสุดเป็นถึงหวงกุ้ยเฟย ตอนที่พระนางยังมีพระชนม์ชีพอยู่ โดยในเรื่องหรูอี้นั้น พระสนมหวงกุ้ยเฟย ถือเป็น ดิส คอยรังแกสนมคนอื่น ถ้าเห็นใครท้องก็พร้อมที่จะทำร้าย พระนางนั้นอยากจะตั้งครรภ์ซะเหลือเกิน พยายามกินยงกินยาก็แล้ว ก็ไม่ตั้งครรภ์ และอนสุดท้ายก็ต้องตายอย่างอนาจ แต่ความจริงแล้ว พระนางไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย พระนางเป็นคนที่มีกิริยามารยาทเรียบร้อย และตอนที่พระนางสิ้นพระชนม์ ฮ่องเต้หย่งเจิ้นก็ทรงเสียพระทัยมาก ตั้งพระนางเป็นหวงกุ้ยเฟยเชียวล่ะ และตำหนักลำดับที่สามก็ คือ

ฉู่ซิ่วกง เป็นตำหนักที่แสนหรูหรา ของซูสีไทเฮา ซูสีไทเฮาพำนักที่ตำหนักฉู่ซิ่วกงมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นหลานกุ้ยเหรินในจักรพรรดิเสียนฟง และก็ยังให้กำเนิดฮ่องเต้ถงจื่ออยู่ที่ตำหนักนี้ สมัยกวางสีปีที่สิบ พระนางโปรดให้มีการบูรณะครั้งใหญ่ในวันเฉลินพระชนม์พรรษาของซูสีไทเฮาครบรอบห้าสิบปี มีการใช้เงินบูรณะถึง6400,00หยวน เพื่อให้หรูหราอู้ฟู่รู่ร่า และในสมัยฮ่องเต้ปูยี พระองค์ก็ปรับแต่งตำหนักนี้ให้ข้างในเป็นรูปแบบตะวันตก มีการ นำโต๊ะอาหารแบบยุโรป มีการใส่เปียโนเข้าไป มีการใส่เก้าอี้แบบฝรั่งเข้าไปมากมาย อ่ะพาเดินต่อไปตำหนักโดดเด่นอีกตำหนักหนึ่ง คือ ตำหนักเบอร์ห้า คือฉางชุนกง


 ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่ร่วมไท่จี๋เตี้ยในเบอร์หกไว้แล้ว ฉางชุนกง เป็นผลงานที่ใหญ่ของจักรพรรดิเสียนฟง เป็นกลุ่มอาคารที่วางแนวเหนือใต้และมีลานทั้งหมดสี่ลานด้วยกัน สนมที่พักอยู่ที่นี่ที่โด่งดังอลังการก็คือ ฮองเฮาฟู่ฉา ในเรื่องหรูอี้ ไงค่ะ ฮองเฮาฟู่ฉาพระองค์เป็นพระมเหสีพระองค์แรกของฮ่องเต้เฉียนหลงแต่ว่าพระนางเสด็จสวรรคตขณะที่ประทับพระที่ที่นั่งที่เจียนหนาน และเป็นฮองเฮาองค์แรกที่สวรรคตนอกวังต้องห้าม ฮ่องเต้เฉียนหลงเสียใจมากพระองค์รับสั่งให้พระโกศ ประดิษฐานไว้ที่ฉางชุนกงและห้ามพระสนมคนอื่นเข้าไปพักเด็ดขาด ทุกอย่างที่ฉางชุนกงต้องอยู่ในสภาพเดิมเฉกเช่นที่ฮองเฮายังมีชีวิตอยู่ แสดงว่าฮ่องเต้เฉียงหลงนั้นรักพระนางฟู่ฉามากซะเหลือเกิน และพระสนมอีกคนที่พักอยู่ที่นี่ คือพระสนมซูเฟย พระสนม คนสุดท้ายของราชวงศ์ชิงที่อาศัยอยู่ในวังต้องห้ามนั่นเอง พระสนมซูเฟยแต่งมาอยู่กับจักรพรรดิปูยีเป็นเวลา 2 ปี แต่ชีวิตในวังต้องห้ามของพระนางก็ช่างไม่น่าสบอารมณ์หมายซะเหลือเกิน ฮ่องเต้ปูยีก็ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรกับพระนาง ฮองเฮาหว่านหลงและพระสนมซูเฟยก็เข้ากันไม่ได้เหมือนขมิ้นกับปูน ต่างแผ่ยางใส่กัน สุดฤทธิ์สุดเดชพ่นพิษใส่กัน จนพระนางต้องออกจากวังนี้ หลังจากที่ฮ่องเต้ปูยีโดนทหารมาไล่

            เอาล่ะ ตอนนี้ทุกคนคงจะเข้าใจแล้วว่าพระตำหนักของฝ่ายใน ประกอบไปด้วย 12 พระตำหนัก แบ่งเป็น หมู่หกพระตำหนักฝั่งตะวันออกและหมู่หกพระตำหนักฝั่งตะวันตก โดยมีพระตำหนักกลางกั้นอยู่อีกสามตำหนักใหญ่ ถ้ามีอะไรสงสัยเกี่ยวกับพระตำหนักก็คอมเม้นท์มาข้างล่างได้ แต่ถ้าใครอยากจะมีความรู้มากกว่านี้ แอดมินแนะนำหนังสือเล่มนี้เลย เพราะเขียนละเอียดมากเกี่ยวสถาปัตยกรรมของพระราชวังต้องห้าม ใครที่อยากเรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับพระราชวังต้องห้าม เชิญซื้อที่มติชนได้เลย สำหรับอื่นๆ เช่น ตำหนักองค์ชายอยู่ที่ไหน ตำหนักของพระสนมรัชกาลก่อนอยู่ที่ไหน เราจะมาว่ากันในเทปถัดไปค่ะ วันนี้ก็สวัสดี สวีดัส

Comments

Popular Posts