พระตำหนักเขตพระราชฐานชั้นในวังต้องห้าม ตีแผ่ตำหนักคุณแม่หรูอี้และฮองเฮาฟูฉา

 



แฟนละครสนมราชวงศ์ชิง จะต้องเคยได้ยินประโยคนี้ที่ฮองเฮาพูดอยู่บ่อยๆว่า เปิ่งกุ่งล่ะฮองเฮ่า ซึ่งคือนายหญิงทั้งหกตำหนัก ซึ่งจริงๆคำพูดนี้ก็ไม่ผิด แต่ก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะว่าพระราชตำหนักฝ่ายในนั้น ประกอบไปด้วย 12 ตำหนัก แต่แบ่งออกเป็นสองฝั่ง คือ หมู่หกพระตำหนักฝั่งตะวันออก เราเรียกว่า ตงหลิ่วกง และหมู่หกพระตำหนักฝั่งตะวันตก เราเรียกว่า ซีหลิ่วกง แต่ก่อนที่จะพูดถึง 12พระตำหนัก อยากจะให้ดูแผนที่พระราชวังต้องห้ามกันก่อน ว่ามันใหญ่เพียงใด


 เนื้อที่ของฝ่ายในนั้นมากเกือบ 30 % ของเนื้อที่ทั้งหมด และทำไมฝ่ายในถึงต้องมีเนื้อที่เยอะละ? นั่นก็เพราะว่าฮ่องเต้ต้องมีสนมกำนัลตามกฎมณเฑียรบาลมากมาย และก็ยังต้องมีลูกหญิงลูกชายที่ต้องเลี้ยงดู ดังนั้นถ้าเกิดฝ่ายในมันเล็กแล้วไซร้ เหล่าพระสนมไม่ขี่คอนอนกันหรอคะ? ดังนั้นฝ่ายในต้องยิ่งใหญ่แน่นอนค่ะ แต่ว่าก่อนที่จะไปถึง12 พระตำหนัก เรามาดูตำหนักตรงกลางก่อนคือ


หมายเลข 1 เรียกว่าพระตำหนักเฉียงซิงกง หรือที่ภาษาอังกฤษ เรียกว่า the palace of heavenly purity  

เฉียนซิงกงเป็นตำหนักแรกของตำหนักหลักสามหลังในฝ่ายใน เป็นที่ประทับหลักของฮ่องเต้ซุ่นจื้อกับคังซี แต่นสมัยฮ่องเต้หย่งเจิ้นก็เปลี่ยน เพราะว่าฮ่องเต้หย่งเจิ้นเลือกประทับที่หยางชิงเตี้ยนมากกว่าทำให้ตำหนักแห่งนี้ใช้เป็นท้องพระโรงและใช้เป็นที่เก็บพระศพของฮ่องเต้ เวลาฮ่องเต้สวรรคต นี่คือเฉียนซิงกง ความพิเศษของพระตำหนักแห่งนี้ คือ  มีพื้นที่ถึง1,400 ตารางเมตร สูงกว่า 20 เมตร บนชายคาทั้งสี่ด้านประดับด้วยสัตว์มงคล 9 ตัว ด้านซ้ายและด้านขวามีรูปเต่าและนกกระเรียน และสาเหตุที่ต้องประดับด้วยสัตว์มงคลทั้ง 9 ตัว นั่นเพราะป้องกันไม่ให้กระเบื้องครอบชายคาหลุด สัตว์มงคลยิ่งมีมากเท่าไรแสดงว่าผู้อาศัยอยู่ในตำหนักมีฐานันดรสูง สัตว์มงคลทั้ง 9 ตัว มี3-4ตัวที่เด่น คือ มังกร  แปลว่า สัตว์ที่เก่งกาจที่สุดในใต้หล้า , หงส์ สัตว์ที่สูงส่ง สวยงาม , ม้าสวรรค์ เคลื่อนที่รวดเร็ว

 ถัดจากเฉียนซิงกงไปก็คือ ตำหนักเจียวไท่เตี่ยน หรือ The hall of union ในอันที่สอง ตำหนักนี้เป็นที่สำหรับพระมเหสีมารับการถวายพระพรในโอกาสวันเกิดหรือเทศกาลสำคัญต่างๆและยังเป็นที่เก็บตราพระราชลัญจกรกว่า 25 ตราด้วยกัน ซึ่งแต่ละตราจะมีวิธีใช้แตกต่างกันไป ในสมัยพระเจ้าเฉียนหลงได้มีการกำหนดกฏเกณฑ์ขึ้นมาอย่างชัดเจนว่าตราไหนใช้ทำอะไร เพราะในสมัยฮ่องเต้ซุ่นจื้อกับคังซีนั้น ยังมีการใช้อย่างไม่เคลียร์ ฮ่องเต้เฉียนหลงเลยมาset standard ให้มันเรียบร้อย

   ลำดับที่สาม คือ คุนหมิงกง เป็นตำหนักฝ่ายในที่ถือว่าใหญ่ที่สุด ซึ่งภาษาอังกฤษ เรียกว่า the palace of earthly tranquility ในเบอร์ที่3 ในสมัยราชวงศ์หมิงตำหนักคุนหมิงกงเป็นที่ประทับหลักของฮองเฮา แต่ในสมัยราชวงศ์ชิงเป็นที่บูชาเทพเจ้า และก็เป็นเรือนหอของจักรพรรดิกับฮองเฮา ถ้าเกิดใครดูเรื่องหรูอี้จะเห็นว่า ตอนที่จักรพรรดิเฉียนหลงแต่งกับหรูอี้ จัดอยู่ในคุนหมิงกง แล้วทั้งวังข้างในตกแต่งเป็นเรือนหอสวยสดงดงามมากมาย และทุกวันนี้ข้างในก็ยังตกแต่งเช่นนี้ พระตำหนักนี้มีข้อพิเศษ คือ หันไปทางทิศใต้ มีความกว้างเก้าห้อง ลึกสามห้อง หลังคาซ้อนกันสองชั้น ข้างในประดับด้วยจิตรกรรมด้วยภาพมังกรและหงส์ ซึ่งอลังหารหรูหราหรูเริ่ดมากเลยค่ะ ตอนนี้แอดมินพาคุณเดินทางผ่านสามตำหนักกลางเข้าไปแล้ว ลำดับถัดไปเราจะพาคุณมาเดินผ่านหมู่หกพระตำหนักฝั่งตะวันออกกันเลยดีกว่า

 หมู่หกพระตำหนักฝั่งตะวันออก ประกอบด้วย

 เหยียนซิงกง หรือ the palace of extending happiness หมายเลขที่หนึ่ง

หย่งเหอกง หรือ the palace of everlasting harmony ในป้ายที่สอง 

จิ่งหยางกง the palace of revering yang อยู่ในเบอร์ที่สาม 

จิ่งเหรินกง หรือ the palace of revering Benevolence อยู่ในเบอร์ที่สี่

ตำหนักเฉินเฉียนกงหรือ the palace of obeying the heaven อยู่ในตำแหน่งที่ห้า 

จงชุ่ยกง หรือ the palace of cherishing essence ตำแหน่งที่หก 

เราค่อยๆเดินทางไปทีละตำหนัก ตำหนักแรก คือ เหยินซี่กง

ซึ่งพระตำหนักนี้มีความสำคัญคือ เหว่ยหยิงลั่วอยู่ จากที่กลายเป็นกุ้ยเหรินเล็กๆจนกลายเป็นหวงกุ้ยเฟย ตบมือให้คุณแม่ ซึ่งตำหนักนี้มีความแตกต่างจากเรื่อง Yangzi’s palace แน่นอนเพราะว่า ตำหนักนี้เป็นที่รู้กันว่าอัปมงคล เป็นตำหนักอยู่แล้วแย่ ตำหนักที่ใครอยู่แล้วก็โดนทิ้งร้าง เพราะว่า ตำหนักนี้มีแต่ความชั่วร้าย เพราะพระตำหนักเกิดเพลิงไหม้หลายต่อหลายครั้ง ทุกสมัยของฮ่องเต้ต้องมีเพลิงเกิดขึ้นครั้งนึง ในสมัยของฮ่องเต้เต้ากวงโดนเผาจนเหลือแต่ประตู เพิ่งได้รับการบูรณะสมัยหรงอี้ไทเฮา ซึ่งพระนางได้รับมรดกมาจากพระนางซูสี พระนางหรงอี้บูรณะเหยียนซี่กงใช้เงินถึง4ล้านหยวน พระตำหนักมีความพิเศษ คือว่า มีพระตำหนักตะวันตกใหญ่เบิ้มข้างหน้า เป็นตำหนักกลางน้ำสูงสามชั้น เสาหล่อจากทองแดง ตรงกลางใส่น้ำเลี้ยงปลา พื้นข้างล่างและด้านข้างปูด้วยกระจก หากสร้างเสร็จจะถือว่าอความเรี่ยมแห่งแรกในโลกที่แม้แต่สยามพารากอนก็สู้ไม่ได้ เข้าไปข้างในยิ่งใหญ่มากไม่ต่างจากsea world  แต่ว่าการก่อสร้างหยุดชะงักก่อน เพราะว่าตอนจักรพรรดิปูยีสละราชสมบัติและโดนขับออกจากวัง แล้วสถานที่นี้มีใครอยู่บ้างคะ? มีฉางจ้ายสกุลซัวอยู่ในสมัยฮ่องเต้คังซี และต๊ะอิงอีกสองคน แล้วพระสนมที่ประทับในตำหนักนี้ถือว่าเงียบเหงาและห่างไกลผู้คน มักจะมีชีวิตที่แร้นแค้น ว่ากันว่าแม้แต่อาหาร,เสื้อผ้า,รองเท้า เครื่องนุ่งห่ม ถ่านที่จะใช้ในเวลาหน้าหนาวก็มีไม่พอใช้ ซึ่งตำหนักหยางซี่กง เหว่ยหยิงลั่ว จริงๆไม่เคยอยู่ ดังนั้นแอดมินเลยเข้าใจว่าทำไมตอนนั้นฮองเฮาอูรานาราถึงให้เหว่ยหยิงลั่วไปอยู่ตำหนักหยางซี่กง เพราะว่า ตำหนักค่อนข้างห่างไกลผู้คน คิดว่าต้องเก่งจริงๆถึงจะเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้

Comments

Popular Posts