หลงเฟย สนมที่พระเจ้าเฉียนหลงรักมากที่สุด

 



วันนี้แอดมินจะมาพูดเกี่ยวกับเรื่องของ หลงเฟย สนมที่พระเจ้าเฉียนหลง หลงที่สุด เพราะมีหลายคนถามแอดมินว่า แอดมินคะ หลงเฟยในเรื่องหรูอี้ หลงเฟยในเรื่องหยางซี        พระเจ้าเฉียนหลง ทำไมถึงได้ตามใจนางไปซะทุกอย่างและก็สวยซะเหลือเกิน ตัวจริงในประวัติศาสตร์และตัวจริงในละครเหมือนกันมั้ยคะ ? พระเจ้าอยู่หัวหลงเธอจริงมั้ยคะ ? ได้ค่ะแอดมินจะไขข้อข้องใจของทุกคนเดี๋ยวนี้ แต่ก่อนที่จะมาดูว่าหลงหรือไม่ ? เราก็ต้องดูว่าพื้นเพของสนมคนนี้มาจากที่ไหน ?และเพราะเหตุใดเพราะเจ้าอยู่หัวถึงได้หลงเธอ

ก็เกิดเรื่องในปี 1757 เกิดกบฏขึ้นในซินเจียง พระเจ้าเฉียนหลงก็สั่งให้กองทหารเข้าไปปราบกบฏและก็สั่งให้เผ่าต่างๆที่อยู่รอบๆซินเจียงเข้ามาช่วยกองทหารด้วย ซึ่งตอนนั้นหัวหน้าเผ่าที่ชื่อว่า ถัวเอ่อตู้ ถือว่าเป็นคนเก่งที่มีความสามารถมากเพราะว่าช่วยปรากบฏจนหมอบคาบราบแก้ว ถือว่ามีผลงานโบว์แดง ร้ายแรงมากเลยคนหนึ่ง หลังจากที่พระเจ้าเฉียนหลงได้รับรายงานว่า ถัวเอ่อตู้ ถือว่าเป็นคนที่เก่งมากในการปราบกบฏ พระเจ้าเฉียนหลงดีใจมากให้ความดีความชอบถัวเอ่อตู้ อย่างรุนแรง แถมยังให้ยศอย่างสูงด้วย ซึ่งทำให้ถัวเอ่อตู้ มีความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นที่สุด และระหว่างนั้นหลังจากที่ปราบกบกฎแล้วเนี่ยะ


ในปี
1760 หลังจากที่กบฏหมดไปแล้ว พระเจ้าเฉียนหลงก็ได้จัดงานเลี้ยงขึ้นมาในหยวนหมิงหยวน เพื่อตอบแทนผู้ที่มาช่วยกันปรากบฏ และก็ได้เชิญถัวเอ่อตู้ มาด้วย ในครราวนั้นถัวเอ่อตู้ก็ได้นำน้องสาวของตัวเองมาด้วยซึ่งก็คือ หลงเฟย นั่นเอง หลงเฟยนั้นคอนนั้นยงอยู่ในวัยสาววัยดรุณ ยังไม่มีคู่ครอง ดังนั้นใครดูเรื่อง yang-zi’ s palace หรือเรื่อง หรูอี้แล้วเข้าใจว่า หลงเฟยในละครเคยมีคู่หมันคู่หมายมาแล้ว มีความรักโดยที่มาที่โดนบังคับจากพี่ชาย แต่ในประวัติศาสตร์ไม่ได้เคยมีระบุไว้เลยว่า หลงเฟยเคยมีความรักมาก่อน หรือว่าเคยมีผู้ชายเคยมารักมาชอบมาก่อน แล้วก็ต้องเข้าใจอีกอย่างหนึ่งว่า หัวหน้าเผ่าถัวเอ่อตู้ ที่เป็นพี่ชายของหลงเฟย นับถือศาสนามุสลิม คือ ทั้งถัวเอ่อตู้และหลงเฟย เป็นมุสลิมทั้งคู่ ซึ่งมุสลิมตอนนั้นค่อนข้างที่จะเข้มงวด ผู้หญิงกับผู้ชายแทบจะไม่ได้สัมผัสกันโดยตรงเลย ถ้าหากไม่ใช่พี่น้องที่คลานตามกันมา แล้วมุสลิมในแถมซินเจียงเนี่ยะเป็นมุสลิมที่ค่อนข้างจะเข้มงวด คือ ผู้หญิงแทบจะปิดทั้งหมด เหลือแต่ตาเท่านั้นเอง ดังนั้นถ้าจะมโนว่า หลงเฟย เคยไปpoint กับทหารคนนั้น เคยไปมีคนรักกับคนี้ น่าจะยาก เพราะในสมัยนั้นผู้หญิงถูกเก็บไว้ในหอสูงค่ะ ไม่ได้มาเจอกับผู้ชายง่ายๆ ดังนั้นแอดมินคิดว่า หลงเฟยไม่เคยมีคนรักมาก่อน

เอาล่ะ ! หลังจากที่หลงเฟยเข้ามาในหยวนหมิงหยวนกับพี่ชายถัวเอ่อตู้ ก็เป็นครั้งแรกที่พระเจ้าเฉียนหลงได้เธอ ตอนที่เจอแวบแรกดั่งกับสายฟ้าฟาดในพระทัย พระเจ้าเฉียนหลงเห็นนางแล้วหลงทันที นอกจากจะมีรูปลักษณ์ที่สวยงามแล้ว นางยังรู้จักที่จะร้องรำทำเพลงซึ่งเป็นการแสดงแถบมุสลิม ซึ่งไม่ได้จะเห็นกันง่ายๆ พระเจ้าเฉียนหลงแต่งตั้งนางเป็น เหอกุ้ยเหริน ทันที และในระหว่างที่เหอกุ้ยเหริน ได้รับการแต่งตั้งเนี่ยะ ดอกลิ้นจี่ก็ออกเกิดผลผลิตถึงสามร้อยลูกด้วยกัน ซึ่งต้นลินจี่ในสมัยนั้นถือเป็นของมีค่ามาก พระเจ้าเฉียนหลงเลยคิดว่า หญิงสาวคนนี้มากับโชคจริงๆ และที่บอกว่าพระเจ้าเฉียนหลง หลงเธอมากเนี่ยะ หลงยังไงคะ ? แอดมินขออธิบายให้ฟังหน่อย ได้! มันมาก มากกว่าในละครอีก!

ข้อแรก เนื่องจากว่า เหอกุ้ยเหรินเป็นมุสลิม ไม่กินหมู ปิดหน้าปิดตาแล้วยังไม่สามารถพูดภาษาปักกิ่งได้ ดังนั้นพระเจ้าเฉียนหลงลงทุนค่ะ ไปเรียนอารบิกเพื่อที่จะสื่อสารกับ.      เหอกุ้ยเหรินได้ และพระองค์ก็ตั้งใจเรียนมากจนสามารถอ่านออกเขียนได้ และยังเขียนบทความได้อีกด้วย นี่คือข้อแรกที่ตามใจหลงเฟย

ข้องสองยังอนุญาตให้เหอกุ้ยเหรินไม่ต้องเปลี่ยนชุดมาเป็นชุดของราชวงศ์ชิง อยากจะแต่งยังไงแต่งอย่างั้น อยากจะแต่งยังไง คุณได้สิ่งที่ต้องการเดี๋ยวนี้ ในขณะที่สนมคนอื่นยังต้องอยู่ในกฏเกณฑ์


ข้อสามยังอนุญาตให้มีการทานอาหารมุสลิมในวัง ซึ่งตอนนั้นในพระราชวังหลวงเราไม่ได้มีกุ๊กหรือเชฟ หรือเชฟที่ต้อนมาจากมุสลิมมาก่อน แต่พระเจ้าเฉียนหลงสั่ง import กุ๊กมาจากซินเจียงเลยค่ะ เพื่อมาทำอาหารให้เหอกุ้ยเหรินโดยเฉพาะ ซึ่งการกระทำทั้งสามอย่างเหล่านี้ ถือว่าเป็นการกระทำที่แปลกแหวกแนวมาก เพราะว่าต่อให้พระเจ้าเฉียนหลงโปรดปรานสนมคนไหน ไม่ว่าจะเป็นมาจากมองโกล จากเผ่าฮั่นก็ยังไม่เคยลงทุนถึงขนาดนี้ แต่กับหลงเฟยพระองค์ลงทุนมากจริงๆ เท่านั้นยังไม่พอ หลังจากที่เหอกุ้ยเหริน หลังจากที่อยู่ในพระราชวังหยวนหมิงหยวน ดูเงียบเหงา พระเจ้าเฉียนหลง import chef ยังไม่พอ ยัง import พวก.               วงออเครสตร้าจากซินเจียงมาเลยค่ะ เพื่อให้ดีด สี ตี เป่า ในแบบดนตรีที่นางคุ้นเคย เพื่อไม่ให้นางเหงา นี่คือข้อที่สี่ หลังจากที่ไปใช้ชีวิตที่หยวนหมิงหยวนระยะหนึ่ง พระเจ้าเฉียนหลงก็กลับมาที่พระราชวังปักกิ่ง หลังจากกลับแล้วก็แต่งตั้ง เหอกุ้ยเหรินเป็นหลงผิงทันที ซึ่งปกติแล้วเนี่ยะ ทุกคนจะเห็นว่า การจะแต่งตั้งสนมเนี่ยะ ส่วนใหญ่ หนึ่งก็คือมีความจงรักภักดี เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าอยู่หัว สองคือต้องมีบุตร แต่นี่เหอกุ้ยเหรินขึ้นเป็นเหอผินได้ง่ายๆ โดยที่ยังไม่เคยสัมผัสมาก่อน นี่ก็เป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าเฉียนหลง หลงเธอมากจริงๆ

แต่ก็มีเรื่องที่ unimagine มากกว่านีอีก เพราะว่าอยู่ดีๆพระเจ้าเฉียนหลงก็ดำรัสในท้องพระโรงว่า เฮ้อ ! พระราชวังหยวนหมิงหยวนมันก็สวยดีหรอก แต่เผอิญว่า หลงผิง ดูที่จะเงียบเหงาไม่พอ ยังอยากที่จะเอาใจนางอีก คราวนี้ก็เลยสร้างสุเหร่าสองชั้นขึ้นมาตั้งอยู่ในพระราชวังหยวนหมิงหยวนอย่างใหญ่เลยค่ะ เผื่อที่ว่าเวลาพระนางเนี่ยะอยากที่จะไปไหว้พระเจ้าอัลเลาะห์หรือทำกิจการทางศาสนาอะไรอย่างเนี่ยะ จะได้ไปที่สุเหร่า ซึ่งการสร้างสุเหร่าใหญ่ๆในหยวนหมิงหยวน เพื่อให้หลงผิงคนเดียวเนี่ยะ ถือว่าเป็น talk of the town ไม่ว่าจะเป็หรูอี้ ไม่ว่าจะเป็นฮองเฮาฟู่ฉา ไม่ว่าจะเป็นเกากุ้ยเฟย ก็ไม่เคยได้รับเกียรติขนาดนี้ ซึ่งการกระทำครั้งนี้ ข้าพเจ้าก็ไม่รู้ว่าเหล่านางสนมคนอื่นคิดการอย่างไร ? อิจฉาหลงผิงอย่างแน่นอน เพราะว่าพระเจ้าอยู่หัวขลุกอยู่คนเดียวกับเธอ และก็ปรนเปรอเธอด้วยเหล่าสิ่งของต่างๆนานา แถมยังทำผิดประเพณีมากมายเพื่อเธอ แล้วสนมคนอื่นจะทนไหวหรือคะ ? ซึ่งอันนี้ก็เป็นข้อต่อไปที่แอดมินจะบอกว่าต่อให้หลงผิงจะได้รับความเอ็นดูจากพระเจ้าเฉียนหลงอย่างไร หลงผิงก็ไม่เคยตั้งครรภ์เลยแม้สักครั้งเดียว ซึ่งเรื้องนี้ตรงกับเรื่องหรูอี้และเรื่องyang-zi ‘ s palace ว่า หลงผิงไม่มีโอรสและธิดา

ข้อห้าหลังจากที่หลงผิงได้อยู่ในวังแล้ว มีสุเหร่าแล้ว มีวงดนตรีแล้ว มีแต่งตัวตามที่เธอต้องการได้แล้ว ยังไม่จบค่ะ ! เพราะว่านางกำนัลที่เข้ามารับใช้หลงผิง เป็นนางกำนัลชาวแมนจู เอะอะๆก็ทำตามธรรมเนียมชาวแมนจู หลงผิงไม่ชอบค่ะ พระเจ้าเฉียนหลงก็ตอบว่า โอเค ในเมื่อเธอไม่ชอบนางกำนัลชาวแมนจู ฉันจะ import นางกำนัลจากซินเจียง นางกำนัลอาหรับราตรีมาให้เธอเลย วู้ยยย! ตอนนั้นเนี่ยนางกำนัลก็ถูก import มาจากซินเจียง ซึ่งซินเจียงเนี่ยะก็คือ อยู่ติดๆกับปากีสถาน อะน่ะค่ะ ซึ่งก็เป็นคนอาหรับเหมือนกัน แล้วนางกำนัลก็ได้รับกฎยกเว้นว่าให้ยกเว้นกฎการแต่งตัวของนางกำนัล ให้นางกำนัลแต่ตัวตามชาติกำเนิดได้ทันที ซึ่งการทำอย่างนี้ถือว่าเป็นการแหกประเพณีอีกอย่างหนึ่ง เหล่านางสนมได้แต่เก็บแค้นเจ็บปวด เหมือนเล็บขบที่มันจิกมาห้าหกเดือน แต่ทุกคนก็ต้องอดทน เพราะพระเจ้าเฉียนหลงรักหลงผิงมากที่สุดในเวลานั้น คิดว่าพระเจ้าเฉียนหลงจะหยุดในการให้ของขวัญหลงผิงมั้ยคะ ? ยังไม่หยุดค่ะ ! สร้างสุเหร่าก็แล้ว ให้คนใช้ก็แล้ว สร้างวงออเครสตร้าให้แล้ว ให้แต่งตัวยังไงก็ได้ พระเจ้าเฉียนหลงสร้างหอดูจันทร์มาให้เธออีกหอหนึ่ง ซึ่งดูใหญ่บิ๊กเบิ้ม ซึ่งเรามีรูปมาให้ดูด้วยน่ะว่าหอดูจันทร์เนี่ยะใหญ่ขาดไหน ซึ่งหอนี้เป็นหอชั้นเดียวก็จริง แต่ว่าข้างในเนี่ยพระเจ้าเฉียนหลงได้ให้จิตรกรชาวอิตาลี เข้ามาวาดภาพทิวทัศน์แถบซินเจียง เพื่อที่ว่าให้หลงผิงไม่เหงา เวลาอยู่ในวังหยวนหมิงหยวน อู้ยยยยย ตายแล้วตอนแรกก็ สร้างสุเหร่า  ตอนนี้ก็สร้างหอดูดาวขึ้นมา เพื่อหลงผิงคนเดียว ซึ่งการกระทำเช่นนี้ข้าพเจ้าก็ไม่รู้ว่าฮองเฮาหรูอี้ จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แต่ตอนนั้นต่อให้เป็นฮองเฮาก็เถอะ ทุกคนต่างก็พากันเงียบกริบกันทั้งนั้นแหละค่ะ เฮ้อ ! แลในเรื่องหรูอี้ไทเฮาเป็นคนที่เห็นว่าพระเจ้าเฉียนหลงให้การสนใจหลงผิงมากเกินไป เลยประทานยาแท้งมาให้ ก็คือกินเข้าไปแล้วหลงผิง เนี่ยะก็ไม่สามารถที่จะตั้งครรภ์ได้ แต่อันนี้ก็ไม่มีเขียนในประวัติศาสตร์น่ะ แต่ว่า ที่ผู้แต่งละครเรื่องนี้คิดขึ้นมาก็คงจะมีคลับคล้ายคลับคลามาจากเรื่องจริง เพราะว่าหลงผิงไม่มีโอรสธิดา หลังจากนั้นไม่นานปี 1768 พระเจ้าเฉียนหลงก็ได้เลื่อนยศหลงผิงเป็นหลงเฟย ซึ่งตอนนั้นหลงเฟยถือว่าเป็นคนโปรดที่สุดในสมัยรัชกาลนั้น เชียวล่ะ แต่ว่าต่อให้โปรดยังไงก็ตาม หลงเฟยก็ดั๊นนอายุสั้นขึ้นมาค่ะ หลงเฟยป่วยในอายุตอน 65 ปี พระเจ้าเฉียนหลงก็โศกเศร้าเสียใจในการจากไปของหลงเฟยมาก ถึงกับต้องหลั่งน้ำตากันเลยทีเดียว ซึ่งเรื่องของหลงเฟยแอดมินก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ แต่ทุกคนก็เข้าใจกันแล้วใช่มั้ยว่า ทำไมหลงเฟยนั้นถึงได้มีบทบาทในพระเจ้าเฉียนหลงมาที่สุด เพราะพระเจ้าเฉียนหลงให้เธอมากกว่าคนไหน มากกว่าให้กับฮองเฮาด้วยจ๊ะ  

Comments

Popular Posts