ความอยากสวยฆ่าคุณได้

 


ความสวยฆ่าคุณได้

            ผู้หญิงกับความสวยความงามถือเป็นของคู่กัน โดยเฉพาะสิ่งที่ติดอินเทรนด์ในยุคนี้ก็คือ การที่มีผิวขาวใสอมชมพู ถือว่าเป็นสุดยอดความงาม ดังนั้นเหล่าผู้ผลิตเครื่องสำอางค์จึงได้ผลิตไวท์เทนนิ่งและกลูต้าต่างๆจนเกลื่อนเมือง แต่ท่านผู้ฟังทราบหรือไม่ว่าการคลั่งขาวมีมาตั้งแต่สมัยสุนทรภู่แล้ว ดั่งคำชมนางบุษบาที่ว่า

“พักตร์น้องนวลละอองเปล่งปลั่ง ดั่งดวงจันทร์วันเพ็ญประไพรศรี

อรชรอ้อนแอ้นทั้งอินทรีย์            ดั่งกินนรีลงสรงลงคงคา”

นั่นก็หมายความว่านางอุดมคติในวรรณคดีนั้นต้องมีผิวขาวใสอมชมพูถึงจะถือว่าสวย แต่เอ๋?ความเชื่อเรื่องผิวขาวใสเนี่ยะเรามีแต่ในสมัยของคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรอคะ? แล้วประเทศอื่นเขามีหรือป่าว? ซึ่งเป็นที่น่าตกใจอย่างมาก Oh my god ! จริงๆแล้วพวกประเพณีหน้าขาวมาจากพวกฝรั่งดั้งขอแล้วก็มาตั้งแต่คริสตศักราชที่16 ไม่ใช่สิ่งที่คนไทยหรือคนเอเชียผิวคล้ำคิดขึ้นมาเอง แล้วคนที่นำแฟชั่นหน้าขาวในยุคนั้นเข้ามาก็คือ ควีนอลิซาเบทที่1 ดั่งรูปที่เห็น ควีนอลิซาเบทที่1ชอบการแต่งประทินผิวให้เป็นลักษณะผีจูออน เพราะเป็นสิ่งที่แสดงว่าใครก็ตามที่มีแป้งมาทาหน้าขาวๆ ถือว่าเป็นชนชั้นสูงที่perfect แต่รู้กันมั้ยว่า การที่จะทำให้หน้าขาววอกเป็นผีนางละครเนี่ยะมันน่ากลัวขนาดไหน ผู้หญิงสมัยก่อนต้องแลกกับความหน้าขาวนี้ด้วยชีวิตของตัวเอง นั่นก็เพราะว่าสิ่งที่พอกหน้าขาวนั้นหนาไปด้วยตะกั่ว และสีที่ทาปากทำจากปรอท ส่วนเครื่องสำอางค์ที่ใช้ลบmakeupก็ผสมไปด้วยปรอทเข้าอีก double capacity เพื่อที่จะทำให้สิ่งที่โป๊ะหน้าเข้าไปล้างออกง่าย สารเคมีเหล่านี้มีฤทธิ์มีแรงกัดผิว จนทำให้หน้าของหญิงสาวในสมัยนั้นปรุแล้วปรุอีกรวมถึงหน้าของควีนอลิซาเบทด้วย

ตะกั่วและปรอทโดนแบนจากการใช้เป็นเครื่องสำอางมานานนมแล้วล่ะ แต่ในสมัยสี่ร้อยปีก่อนมันไม่มีใครรู้ ฤทธิ์ของมันร้ายแรงมากใช้ไปไม่เท่าไหร่ผมที่เคยดกดำก็จะร่วง และถ้าเกิดใช้ต่อไปอีกผิวก็จะโดนกัด ชั้นผิวหนังก็จะถูกทำลายจนเห็นเว้นเลือดเชียวหล่ะ แล้วถ้าเกิดใครใช้ไปนานๆพิษตะกั่วก็จะสะสมจนเสียชีวิต บางคนถึงกับจิตหลอน บางคนเสียสติ และบางคนต้องติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นความรู้ใหม่ที่เพิ่งคิดค้นในสมัยร้อยปีมา แต่สมัยสี่ร้อยปีก่อนคริสตศตวรรษที่16ไม่มีใครรู้หรอก และนอกจากตะกั่วที่ใช้ทาหน้าให้ขาววอกเนี่ย
ควีนอลิซาเบทยังนำแฟชั่นทาปากสีแดง ซึ่งเป็นสีแดงที่แดงกว่าประจำเดือนสุนัชชิสุ แล้วไอ้สีแดงเนี่ยในสมัยก่อนไม่มีเหมือนสมัยนี้ไงที่เป็นสีแดงจากสีผสมอาหาร ในสมัยก่อนเอาสีแดงมาจากซินาบา ซึ่งเราก็มีรูปมาให้ดูด้วย ซินาบาเป็นแร่สีแดงสดที่ประกอบด้วยสารปรอทอีกแล้ว เพราะการใช้สารปรอทเนี่ยะ ริมฝีปากของควีนถึงได้เป็นสีแดงสด เพราะมันเข้าไปกัดเนื้อเยื่อที่ริมฝีปากไง ริมฝีปากมันก็เลยแดงยิ่งทามันก็ยิ่งแดง

ทำให้สีของปากของควีนดังกุหลาบลนไฟ อย่างรูปที่เห็น ซึ่งควีนอลิซาเบทหรือคุณแม่ของเราเนี่ยก็ใช้เครื่องสำอางเหล่านี้ทุกวั๊นทุกวัน ผลก็คือสารพิษแต่ละอย่างจับมือกันรุมทำร้ายผิวหมดเลย ราชินีอลิซาเบทก็เลยหน้าแหกแล้วหน้าแหกอีก หน้าก็บางแล้วบางอีก แล้วทำยังไงหล่ะ พอหน้าบางปึ๊บบางปึ๊บ ไอ้พวก
make upที่ใส่เข้าไปมันก็ไม่ค่อยติดใช่มั้ยค่ะก็ต้องโบกหนาเข้าไปอีก โบกหนาเข้าไปอีก ซูมกันไปหลายๆเท่า จนมีการบันทึกว่ารองพื้นของควีนอลิซาเบทของคุณแม่เนี่ยะหนามากกว่าหนึ่งนิ้ว และนอกจากเครื่องสำอางจะทำลายผิวแล้วเนี่ยะมันยังเข้าไปทำลายกระแสเลือดด้วยทำให้ควีนอลิซาเบทในช่วงท้ายๆของชีวิตเริ่มสูญเสียความทรงจำ แล้วพิษของปรอทก็ทำให้พระนางสูญเสียพระเกศาร่วงแล้วร่วงอีกจนเป็นจีไอโจนต้องใส่วิกทุกวันตามรูป แล้วการใช้make upของควีนก็ไม่ธรรมดา
ไม่เหมือนสาวสมัยใหม่ไง คือสาวสมัยใหม่แบบพวกเราบางคนแต่งหน้าจัดเต็ม เพราะกลางคืนไปดิ้นดึกไงฮ่ะ เป็นพวกสายเดี่ยว เที่ยวดึก ส้นตึกตอแหลก็ไปดิ้นๆๆๆ กลับมาจากผับตีสามตีสี่ก็นอนไปเลยพร้อม
make up ตื่นขึ้นมาก็รู้สึกผิดว่าทำไมฉันไม่ล้างเมคอัพก่อน แต่ถ้าเกิดคุณไปดูการล้างเมคอัพเมื่อสมัยสี่ร้อยกว่าปีที่แล้วของควีนอลิซาเบท คุณแม่ไม่ได้ล้างหน้าทุกวัน การทาหน้าขาวเต็มสตรีมเหมือนผีจูออน คุณแม่ล้างหน้าเมคอัพทุก หนึ่งอาทิตย์ หรือไม่บางครั้งก็ทิ้งมากกว่าหนึ่งอาทิตย์อีกค่ะ อุ๊ยต๊ายตายขนาดผู้หญิงเราเนี่ยล้างหน้าทุกวันยังรู้สึกหนักหน้า แล้วควีนอลิซาเบทล้างทุกอาทิตย์จะไม่หนักขนาดไหน และเพราะการไม่ล้างเมคอัพทุกวันนี่ล่ะ ทำให้สารพิษที่เกาะอยู่ที่หน้าที่เป็นปรอท ทั้งตะกั่วทั้งสารต่างๆในเคร่องสำอางเนี่ย ซึมเข้าไปซึมเข้าไปอีก ทำให้ผิวหน้าคุณแม่แตกแล้วแตกอีก และคุณแม่ก็มีปัญหาเรื่องริ้วรอยก่อนวัยอันควร ตีนกงตีนกาคุณแม่มาก่อนเลยมาเร็วกว่าหญิงชาวบ้านเสียอีก นั่นก็เพราะพิษของเครื่องสำอางเหล่านี้ อันนี้ยังไม่พูดถึงเรื่องสิวอุดตันน่ะ เพราะสารเคมีที่มันอยู่มานานเนี่ยะมันก็ซึมเข้าไปแบบแม่น้ำฮวงโหถามโถมเข้ามา ดังนั้นคุณแม่นอกจากจะหน้าแก่แล้วริ้วรอยก็มา สิวก็เห่อ แล้วพระนางจะล้างเมคอัพเนี่ย วิธีการล้างเมคอัพสมัยก่อนคืออะไร ? ครีมล้างเมคอัพสมัยก่อนก็ทำมาจากไข่บ้างอะไรบ้าง แต่สารหนึ่งที่เป็นตัวทำละลายให้เมคอัพเหล่านั้นออก คือ สารปรอท ที่ต้องใส่เข้าไปออกก็ประมาณว่าพิษล้างพิษนั่นแหละค่ะ ซึ่งสารปรอทนั้น เราต้องใส่เข้าไปเยอะแล้วมันจะกัดหน้าไง ทำให้เครื่องสำอางเหล่านั้นออก แต่เพราะการกัดหน้าทำให้ผิวบางแล้วบางอีก แล้วทำไมควีนอลิซาเบทถึงจะต้องมาคลั่งขาวล่ะ ทำไมต้องทาหน้าขาวด้วยทังที่พระนางก็เป็นคอเคเชี่ยน หน้าก็ขาวอยู่แล้ว นั่นก็เพราะว่าตอนที่พระนางยังอยู่ในวัยสาวพระนางก็ไม่ค่อยทาหน้าขาวอะไรหรอก แต่เผอิญพระนางป่วยเป็นไข้ทรพิษค่ะแล้วผลข้างเคียงของการเป็นไข้ทรพิษนั้นทำให้พระนางมีแผลเป็นบนใบหน้าปรุๆประๆไปหมด แล้วผู้หญิงเราอะเนอะเวลามีแผลเป็นที่ใบหน้ามีหลุมสิวมากมาย เราก็ทนไม่ได้ไงเราก็ต้องประทินโฉมโดยการโปะรองพื้นเข้าไป ซึ่งรองพื้นนั่นก็คือสร้างความขาวนั่นเอง และยังเป็นการความเชื่อที่ว่าคนที่เป็นหน้าขาวนั้น คือ คนที่เป็นผู้ดี
เป็นคนที่มีชนชั้นสูง เป็นคนที่มีคลาส เพราะสามารถที่จะซื้อสารปรอท สารเมอคิวรีในตะกั่ว มาโปะหน้าได้ ซึ่งตอนนั้นยังแพงอยู่ แล้วพระนางก็ประกาศว่า รูปภาพของพระนางที่ยังไม่ได้รับการแต่งโดยการลง
photoshop ห้ามใช้ออกมาเด็ดขาด ภาพใดก็ตามที่ออกสู่สาธารณชน ต้องเป็นภาพที่พระนางมีหน้าเนียนใสอย่างที่เห็นในรูปเท่านั้นถึงจะออกไปสู่สาธารณชนได้ ถ้าเกิดภาพไหนเป็นภาพหน้าจริงเห็นรอยปรุรอยประพระนางจะโมโหมาก แล้วจิตรกรคนนั้นก็ไปอยู่ในคุกค่ะ ซึ่งอันนี้ก็ตรงกับหญิงสาวในยุคปัจจุบันในประเทศไทยเหมือนกัน เพื่อนของแอดมินถ่ายรูปแล้วถ่ายรูปอีกให้แอฟเดียวกัดไม่พอ ต้องผ่านสองแอพเพื่อให้หน้าขาวเห็นแต่ตา แต่จริงๆสิ่งทีพวกเขาทำเหล่านี้ ในสมัยก่อนเขาทำมากว่าสี่ร้อยปีแล้วค่ะ ในสมัยก่อนมันไม่มีphotoshopใช่มั้ยะ? เขาก็ให้จิตรกรใช้สีกัดจนหน้าขาวผ่องเด่ะแบบในรูป

และเนื่องจากพระนางใช้แฟชั่นการแต่งหน้าหนาๆนานกว่ายี่สิบสามสิบปี ดังนั้นช่วงปลายชีวิตของพระนางพระเกศาของพระนางก็หลุดร่วงจนเหลือไม่กี่เส้น ซึ่งคำว่าเหลือไม่กี่เส้นเนี่ยไม่ได้พูดเกินจริงน่ะ เพราะอ้างอิงมาจากเอิร์ลออฟแอคเซสที่บังเอิญได้เห็นพระเกศาของพระนางตอนพระนางถอดวิค วึ่งท่านเอิร์ลบอกเลยว่าพระเกศาของพระนางไม่ต่างจากนางชีที่ไม่มีผม มีผมอยู่ไม่กี่เส้นเท่านั้นเอง เห็นแล้วน่ากลัวมากดังรูปที่เห็นเหมือน แล้วควีนอลิซาเบทสวรรคตในปี
1603 สาเหตุของการสวรรคตก็มีหลายสาเหตุเช่นเป็นมะเร็งบ้าง เป็นนิววโมเนียบ้าง แต่อีกสาเหตุหนึ่งที่มีส่วนที่ทำให้พระองค์เสียชีวิต คือ เมคอัพที่มีส่วนผสมของสารปรอท ทำจากตะกั่ว ทำจากสารเคมีที่ไม่ได้รับการรับรองในสมัยนี้ แล้วพวกคุณละคะ?ยังจะคลั่งขาวกันอีกหรือป่าว? แต่ที่แน่ๆถ้าคุณคลั่งขาวก็ไม่ต้องคลั่งมากแล้วละค่ะก็ถ่ายรูปลงแอฟสิค่ะอยากจะกัดเท่าไหร่กัดไปเลยค่ะ กัดจนหน้าเป็ผีจูออนเห็นแต่ตาก็ตามใจคุณเลยค่ะ

Comments

Popular Posts